8 สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเงินเก็บสำคัญ เอาตัวรอดก่อนวิกฤต
ในอนาคตอีกไม่นาน ธนาคารทั่วโลกจะให้ ด อ ก เบี้ยเงินฝาก 0% เราเริ่มจะเข้าใกล้สิ่งนี้เต็มทีแล้ว เพราะโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เราต้องทำคือการปรับตัวให้ทัน รู้เท่าทันเหตุการณ์ และสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะได้มีการวางแผนชีวิตให้ถูกต้อง และไม่ลำบา กในภายหลัง
1. หลังยุค ด อ ก เ บี้ ย 0% จะยิ่งหนักกว่าเดิม
เหมือนคำพูดที่ว่า รวยกระจุก จนกระจาย เงินไปอยู่กับคนรวยแค่กลุ่มเดียว ที่มีจำนวนนิดเดียวเมื่อเทียบกับคนทั้งประเทศ ในขณะที่คนจน ยังต้องหาเช้ากินค่ำอยู่ อย่าคิดไปถึงเงินเก็บออมเลย แค่ใช้จ่ายแต่ลละวันก็เหนื่อยแล้ว
2. อำนาจของเงิน มีมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายคนคงได้เห็นอำนาจของเงิน ใครมีเงินมากก็มีปากมีเสียงได้มาก แต่ถ้าใครไม่มีเงินเลย พูดอะไรไปก็ไม่มีใครได้ยิน กลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้อำนาจของคนมีเงิน แม้แต่ความยุติธรรมก็ไม่มีอยู่ข้างของคนจน
3. อายุมากแล้ว แต่ก็ยังต้องทำงาน
ในวัยเกษียณ เป็นวัยที่ต้องได้พักผ่อน ปลดตัวเองออกจากการทำงาน ด้วยอายุและสังขารที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนหนุ่มสาว แต่ในยุคนี้ แค่เหมือนได้ทำงานใช้เงินไปวันๆ ยิ่งถ้าไม่ใช่ข้าราชการที่มีเงินบำนาญ ก็เหมือนต้องทำงานเลี้ยงชีพไปตลอดชีวิต ไม่มีเงินมากพอที่จะเกษียณตัวเองได้เลย
4. อนาคตข้างหน้า เงินยิ่งหา ย า ก มากขึ้นไปอีก
ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ คนตกงาน งานหายา ก ขนาดธนาคารยังได้ ด อ ก เบี้ยต่ำ แถมคนยังฝากเงินน้อยลง เพราะแถบจะไม่มีเงินเหลือไว้เก็บออม แค่ใช้จ่ายแต่ละวันก็ไม่พอแล้ว
5. ค่าครองชีพสูงขึ้นกว่าเดิมเยอะ
สังเกตค่าครองชีพปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นค่าข้าว ค่าอุปโภคบริโภค หรือสิ่งของต่างๆก็เพิ่มขึ้นไปหมด ค่าแรงขั้นต่ำแค่ใช้กินยังแถบจะไม่พอเลย
6. การคอรั ปชั่นที่มากขึ้น
ยิ่งเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ คนที่มีโอกาสจะทำให้ตัวเองได้อยู๋รอดได้สุขสบาย ย่อมทำได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงทำให้คนจ้องจะฉวยโอกาสเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง
7. ความเหลื่อมล้ำ
เพราะระบบที่เป็นมา ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมันจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆไปอีก ยากที่จะแก้ไขจุดนี้ได้
8. อิสรภาพทางการเงินที่ยากจะจับต้องได้
เมื่อพูดถึงอิสรภาพทางการเงินแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากที่มีมีมัน แต่มันก็ไม่ได้ง่ายที่ทุกคนจะได้มาครอบครอง กับการที่จะเอาตัวเองออกมาจากวงล้อวิ่งวุ่นหาเงินอย่างทุกวันนี้