6 สิ่ง ที่คนมักเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง ในการใช้รถใช้ถนน
ประเทศเราติดอันดับ ประเทศที่มี อุ บั ติ เ ห ตุ เกิดขึ่นบนถนนสูงสุดเป็นอันดับสองของโลก ซึ่งก็อย่างที่ทราบกัน เรามีจำนวนรถบนท้องถนนที่มากติดอันดับโลก หากเทียบกับจำนวนถนนที่มี ทำให้ถนนหลายๆเส้น แออัด คับคั่ง ไปด้วยผู้ใช้รถ ประกอบกับ การที่ไม่ค่อยเคารพกฎจราจรกันสักเท่าไรนัก จึงไม่แปลกใจนักที่เราจะเป็นอันดับต้นๆ งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าสิ่งต่างๆที่เราเข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับการใช้รถว่ามีอะไรบ้าง
1. ใช้ 2 เท้า ขับรถเกียร์ออโต้
การขับรถ เกียร์ออโต้ โดยการใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่ง ส่วนเท้าซ้ายเหยียบเบรก เวลาที่คุณตกใจ มีโอกาสที่จะเผลอเหยียบทั้งคันเร่ง และ เบรกพร้อมๆกัน หรือ อาจเกิดเหตุการณ์กะน้ำหนักเท้าซ้ายไม่ถูก จนกลายเป็นเบรกหัวทิ่มได้ หากไม่มี ABS แล้วล่ะก็ อาจทำให้รถพลิกคว่ำได้เลย หรือไม่อาจเสียการควบคุมรถได้ หรือแม้แต่กรณีที่มี ABS ก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราควรใช้เท้าขวาข้างเดียวในการขับรถเกียร์ออโต้
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ต่อให้คุณเคยชินกับการขับรถเกียร์ออโต้ด้วย 2 เท้าแล้ว วันหนึ่งคุณมีเหตุจำเป็นต้องขับรถเกียร์ธรรมดาขึ้นมา เท้าซ้ายที่เคยชินกับการใช้เบรค จะทำให้สับสนเมื่อต้องเปลี่ยนมาเหยียบคลัชในการเปลี่ยนเกียร์ และ เท้าขวาที่เคยชินแต่กับการเหยียบแต่คันเร่ง ก็อาจจะไม่ถนัดในการเปลี่ยนมาใช้เบรคไปในตัวด้วย
2. ไฟผ่าหมาก ( ไฟฉุกเฉิน ) อย่าใช้เปิดเมื่อข้ามสี่แยก
ไฟฉุกเฉิน หรือ ไฟผ่าหมาก ที่หลายๆคนมักเข้าใจผิดชอบเปิดกันเมื่อต้องข้ามสี่แยกไปในทางตรง แม้ว่าผู้ขับขี่จะมีเจตนาดีที่ต้องการแจ้งให้รถคันอื่นทราบว่าต้องการตรงไป แต่การเปิดไฟแบบนี้จะทำให้รถที่วิ่งมาด้านข้างเข้าใจผิดคิดว่าเตรียมจะเลี้ยว อาจทำให้เข้าใจผิดส่งผลให้เกิด อุบัติเหตุ หรือ เกิดการเฉี่ยวชนได้
การขับรถข้ามสี่แยกนั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉินใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ดู ขวา ซ้าย ให้ดี ให้รถทางหลักวิ่งผ่านไปก่อน และ ปฎิบัติตามสัญญานไฟจราจร แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้วครับ
3. เปิดไฟสูง เพราะ มองไม่เห็นทาง
ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไฟสูง ไม่ควรเปิดใช้แทนไฟหลัก หลายๆคนอาจคิดว่าเปิดไปเถอะไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างไฟส่องสว่างได้ไกลมาก ช่วยให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้ชัด ทำให้ปลอดภัยในการขับขี่
แต่เนื่องจากไฟสูงมักออกแบบให้ส่องไปสูงและไกล ทำให้แสงไฟส่องไปแยงตาผู้ใช้รถคนอื่นที่ขับสวนมา อาจทำให้รถคันที่สวนมาเกิดอาการตาพร่ามัว ส่งผลต่อผู้ใช้รถท่านอื่นๆได้ และ หากขับต่อท้ายรถคันอื่นแล้วเปิดไฟสูง ก็อาจไปรบกวนการขับขี่รถคันข้างหน้าเป็นอย่างมาก ทางที่ดีหลีกเลี่ยงการใช้ไฟสูง และ ไปตรวจสายตาเพื่อตัดแว่นให้มองเห็นได้ชัดเจนในตอนกลางคืนจะดีกว่า
4. ถอดรองเท้าขับรถ
หลายๆคน อาจเกิดความเคยชินเวลาขับรถ ต้องถอดรองเท้าออกเพื่อขับรถ บางครั้งใส่รองเท้าพื้นหนา บางครั้งใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้ไม่คุ้นชินกับการกะน้ำหนักในการใช้เท้าเหยียบคันเร่ง หรือ เบรค แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญก็คือ ไม่ควรถอดรองเท้าไว้ใตเท้าฝั่งคนขับ เพราะ อาจจะทำให้รองเท้าไหลเข้าไปติดใต้แป้นเบรค หรือ คันเร่ง ทำให้เกิดการติดขัด
5. วางขวดน้ำไว้ฝั่งคนขับ
เหตุผลเดียวกันกับการถอดรองเท้า ผู้ใช้รถหลายคนมักเผลอวางขวดน้ำไว้ตรงช่องเก็บของด้านข้างประตู หรือ ที่พักเท้า ถ้าช่องเก็บของนั้นแผงกันต่ำ หรือ ไม่มีช่องที่เหมาะสำหรับการวางขวดน้ำ เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น เช่น ต้องเบรคกระทันหัน รถตกหลุม หรือ สะเทือนแรงๆ อาจจะทำให้ขวดน้ำกระเด็นไปอยู่ที่วางเท้า และ ไหลไปติดใต้แป้นเบรคได้เหมือนกัน ทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรค เพื่อหยุดรถได้ในเวลาคับขัน และ เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นให้เห็นอยู่ในข่าวบ่อยๆ
6. ขับเร็ว วิ่งแช่ขวาได้
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า หากเราขับรถด้วยความเร็วสูงสุดตามกฎหมายกำหนดแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลบซ้ายเพื่อให้รถที่เร็วกว่าแซงไป สามารถขับแช่ขวาได้เลย หรือ บางคนขับช้า แต่ก็วิ่งแช่ขวาไว้เหมือนกัน
ซึ่งตามหลักกฎหมายนั้น ช่องทางด้านขวาบนถนนที่มีตั้งแต่ 2 เลนขึ้นไป มีไว้สำหรับแซงเท่านั้น แม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุดตามกำหนดแล้วก็ตาม ก็จำเป็นต้องหลบให้รถที่เร็วกว่าแซงไปอยู่ดี
Cr. รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต , เรียบเรียงโดย bitcoretech